เมื่อต้นปีนี้ทาง IDC ได้ออกรายงานคาดการณ์ยอดขายอุปกรณ์โทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยในปี 2556 ว่าจะมีจำนวน smartphone ที่จะ shipment ในปีนี้ 7.3 ล้านเครื่ิอง เครื่อง Tablet ประมาณ 3.5 ล้านเครื่อง ส่วนเครื่อง notebook จะมีประมาณ 2.5 ล้านเครือง และเป็นเครื่อง Desktop อีก 1.5 ล้าน จากข้อมูลนี้จะเห็นว่าจำนวนยอดขายของ Smartphone มีจำนวนสูงมากเมื่อเทียบกับเครื่อง notebook และ desktop รวมกัน นอกจากนี้จำนวน Tablet ที่ shipment ในประเทศก็มีจำนวนมากกว่า Notebook ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลของ Morgan Stanley ที่ประมาณการจำนวน shipment ของเครื่อง smartphone, tablet และ PC ว่่าจะเห็นแนวโน้มของ Smartphone ทั่วโลกมีจำนวน shipment ถึง 1.1 พันล้านเครื่องในปี 2015 โดยมีจำนวนของ PC เป็น 535 ล้านเครื่อง และจำนวน Tablet ประมาณ 326 ล้านเครื่อง
จากจำนวนเครื่อง Smartphone และ Tablet ที่มีมากกว่า PC ทำให้แนวโน้มของผู้ใช้จะเข้าถึงอินเตอร์เน็ตจะมาจากอุปกรณ์โมบายมากกว่าเครื่องพีซี และทำให้โลกของไอทีกำลังเปลี่ยนแปลงจากจากยุคที่ใช้เครื่อง Desktop หรือ Notebook เป็นหลักโดยทีมี OS หลักๆจะเป็น Windows OS มาสู่ยุคหลังพีซี (Post-PC) ที่ผู้ใช้ไม่ได้ใช้พีซีเป็นหลักแต่ผู้ใช้จะเลือกอุปกรณ์ที่หลากหลายและ OS หลายๆระบบ เช่นอาจเป็น smartphone หรือ Tablet ที่เป็น iOS, Android หรือ Windows 8
ในยุคของพีซีและอินเตอร์เน็ตองค์กรต่างๆก็เตรียมกลยุทธ์ทางด้านอินเตอร์เน็ตหรือเว็บขององค์กร (Internet Strategy or Web Strategy) กล่าวคือองค์กรต้องวางแผนระบบอีเมล์ วางแผนการทำเว็บไซต์ การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อติดต่อสื่อสารหรือการประชาสัมพันธ์องค์กร การติดตั้งระบบอินเตอร์เน็ตหรือ WiFi ในองค์กร ตลอดจนการติดตั้งระบบ e-Service ให้กับองค์กร รวมไปถึงการทำ e-Commerce และเมื่อโลกการใช้ไอทีเปลี่ยนเป็นยุคหลังพีซีโดยมีการใช้โมบายกันอย่างกว้างขวาง องค์กรต่างก็เริ่มที่จะต้องพัฒนากลยุทธธ์ด้านโมบาย (Mobile Strategy) ขององค์กร เพื่อที่กำหนดแนวทางการนำอุปกรณ์โมบายมาใช้ในองค์กรให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจ แต่อย่างไรก็ตาม Gartner ได้แสดงผลสำรวจให้เห็นว่าองค์กรขนาดใหญ่ใน Fortune 1000 กว่า 60% จะยังขาดการวางแผน Mobile Strategy ที่สมบูรณ์ในปี 2014
Mobile Strategy จะช่วยให้องค์กรลดค่าใช้จ่ายและยังมีส่วนช่วยทำให้องค์กรมีแผนการนำเทคโนโลยีโมบายมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาจครอบคลุมด้านต่างๆอาทิเช่น
- การให้พนักงานนำอุปกรณ์โมบายมาใช้ในองค์กร (BYOD: Bring Your Own Devices) องค์กรอาจต้องกำหนดนโยบายการนำอุปกรณ์ smartphone, tablet หรือ notebook เข้ามาใช้ในองค์กร การป้องกันข้อมูลขององค์กร นโยบายการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโมบายให้แก่พนักงาน การกำหนดนโยบายการใช้ Application หรือการใช้ WiFi
- กลยุทธ์การทำงานผ่านอุปกรณ์โมบาย เพื่อที่จะนำ Application ต่างๆมาใช้และปรับวัฒนธรรมการทำงานที่อาจนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้เกิดการทำงานแบบทุกที่ ทุกเวลา และทุกอุปกรณ์มากขึ้น รวมถึงการทำงานร่วมกันผ่านอุปกรณ์โมบาย ขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งสรรเวลาให้ดีทั้งเรื่องของงานและเรื่องส่วนตัว
- กลยุทธ์ด้่าน Mobile Marketing หรือ Mobile Social Media เนื่องจากในปัจจุบันลูกค้าหรือบุคคลภายนอกได้เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์โมบายมาเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากกว่าอุปกรณ์พีซี องค์กรก็จะต้องกำหนดกลยุทธ์ในการทำการตลาด การพัฒนา Application ผ่าน Mobile ที่จะให้ถึงผู้ใช้มากขึ้น อาทิเช่นอาจต้องพัฒนาเว็บไซต์ให้สามารถเรียกดูผ่านอุปกรณ์โมบายได้ การทำ Mobile Social Media
- กลยุทธ์ด้าน Mobile Commerce กระแสด้าน e-Commerce กำลังเปลี่ยนไปสู่ยุคของ m-Commerce ที่ผู้ใช้เริ่มทำการ shopping ผ่านอุปกรณ์อย่าง smartphone หรือ Tablet มากขึ้น องค์กรจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ทางนี้ รวมทั้งการทำ Mobile Payment
- กลยุทธ์ด้านการนำเทคโนโลยีด้านโมบายใหม่ๆอาทิเช่น QR Code, NFC หรือ Tectile มาใช้งาน
จากที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า Mobile Technology กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนในการเข้าถึงข้อมูล และมีความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรยุคใหม่เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ดังนั้นองค์กรต่างๆจำเป็นต้องมี Mobile Strategy เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันและสามารถที่จะกำหนดนโยบายการใช้จ่ายด้านไอทีให้มีประสิทธิภาพ