ช่วงสัปดาห์นี้ ผมพาผู้ที่เข้าอบรมหลักสูตร Cloud Computing for Senior Management ของ IMC Institute ไปร่วมงาน Cloud Expo Asia ที่สิงคโปร์ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคม ปีนี้เป็นปีที่สองที่จัดงานนี้ โดยมีผู้ให้บริการ Cloud หลายรายจากทั่วโลก และเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ Cloud หลายรายมาร่วมออกบูธและบรรยายในงาน อาทิเช่น Amazon Web Services,Dell,Intel, Rackspace, Huawei, HP, Cisco และ SoftLayer งานนี้น่าจะเป็นงาน Cloud Computing ที่ใหญ่ที่สุดในเอเซีย โดยงานนี้จัดคู่กับงาน Data Center Expo ทำให้เห็น Booth จำนวนมากและมีการบรรยายหัวข้อต่างๆนับร้อยหัวข้อ
ภาพบรรยากาศในงานคนค่อนข้างมากพอสมควร นอกจากทีมคนไทยที่ทาง IMC Institute พามาแล้ว ยังพบคนไทยที่มาจากหลายบริษัทและสถาบันการศึกษาเข้าร่วมดูงาน งานนี้ผู้จัดร่วมหลักๆคือ IDA ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลดานไอทีของรัฐบาลสิงคโปร์ งานนี้ Booth ที่ค่อนข้างใหญ่จะเป็นของ AWS ที่มาแสดง IaaS และมีของ HP Helion ที่ แต่ก็พบผุ้ให้บริการจากของสิงคโปร์อย่าง StarHub ที่มาออกบูธแสดงบริการ IaaS และ SaaS และยังมีบูธของกลุ่มผู้ให้บริการ Data Center ของมาเลเซีย รวมถึงผู้ให้บริการ Big Data อย่าง MapR หรือ Qubola ที่เป็น Hadoop as a Service มาแสดง ในแง่ของบริษัทในไทยก็มีบริษัทอย่าง Computerlogy ที่มานำเสนอ TH3RE ที่เป็น Cloud Software ทำ Social Media Command Center ซึ่งเมื่อดูเทคโนโลยีจากบูธต่างๆที่นำมาแสดงจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Cloud Computing เปลี่ยนไปเร็วมากจนเราตามแทบไม่ทัน
การบรรยายในงานแบ่งเป็นห้อง Keynote 2 ห้อง และห้องอื่นๆอีกร่วม10 ห้อง โดยมี session ที่หลากหลายตั้งแต่ด้าน Cloud Security, Cloud Management, Big Data and Analytics การบรรยายแต่ละหัวข้อใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที มีหัวข้อที่น่าสนใจเต็มหมด แต่ก็น่าเสียดายที่ไม่สามารถเข้าไปฟังได้ทั้งหมด ผมเลือกที่จะฟัง Keynote บางหัวข้อที่เป็น Big Data and Analytics ในงานนี้ ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผอ.สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGA) ก็มาบรรยายเป็น Keynote ในหัวข้อ Thailand G-Cloud: The story so far and the next step ก็หวังว่าทางผู้จัดคงมีการแชร์ presentation จากการบรรยายต่างๆมาให้เราได้ดูกัน
ก่อนเริ่มงาน Cloud Expo Asia เราได้พาผู้เข้าร่วมอบรมไปเยี่ยมชมบริษัท Oracle ที่มาแนะนำเรื่อง Cloud ทำให้ทราบถึงโซลูชั่นที่เป็น private และ public cloud ของ Oracle ที่น่าสนใจคือ Virtualization Product ที่ชื่อ Oracle Virtualization Manager ที่ลดค่าใช้จ่ายเรื่อง license เมื่อต้องการใช้ Oracle Product ต่างๆ เช่น Database หรือ Web Server และเป็น VM ที่สามารถรันกับ OS ต่างๆทั้ง Windows, Linux และ Solaris โดย Oracle มีเครื่อง server ที่เป็น Appliance สามารถติดตั้งเป็น Private Cloud ที่ทำเป็น IaaS, PaaS และ SaaS ได้ หรือจะใช้ Public Cloud ที่มีคุณสมบัติเดียวกันจากเว็บไซต์ cloud.oracle.com
จากนั้นก็ไปดูงานต่อที่บริษัท Amazon Web Services การบรรยายของ AWS ทำให้มั่นใจในเรื่องระบบความปลอดภัยบริการ IaaS ของ AWS และที่น่าสนใจคือแม้แต่ทางทีมงานด้านการขายหรือการตลาดของ AWS ก็ไม่ทราบตำแหน่งที่ตั้งของ AWS Data Center ที่สิงคโปร์เพื่อความปลอดภัย และทีมงาน AWS ก็ไม่สามารถที่จะมาดึงข้อมูลต่างๆของผู้ใช้บริการได้ นอกจากนี้ AWS ยังมีบริการที่หลากหลายมากสมกับผู้ใหับริการ IaaS เบอร์หนึ่งของโลก และมีลูกค้าอยู่จำนวนมาก ซึ่งทางทีม AWS ก็แนะนำตัวอย่างลูกค้าใน ASEAN และในประเทศไทย หลายรายก็เป็นบริษัท Startup หรือหน่วยงานอย่างธนาคาร ที่ทำงานของ AWS น่าสนใจมากเพราะมีห้องที่ให้พนักงานพักผ่อนและมีเครื่องดื่มแม้กระทั่งเบียร์ให้ดื่มได้ฟรี
ส่วนเช้าวันที่ 30 ตุลาคม เรามาดูงานที่บริษัท Microsoft โดยทางไมโครซอฟต์ได้จัด session แนะนำ Office 365 ซึ่งเป็น SaaS โดยนอกจากแนะนำคุณสมบัติต่างๆของ Office 365 แล้วก็ยังเน้นให้เห็นถึงเรื่องความปลอดภัยของการเก็บข้อมูลที่อยู่ใน OneDrive ที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะเรื่อง encryption จนผู้ที่มาจากด้านธนาคารบอกว่าโซลูชั่นนี้ตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยได้ดี นอกจากนี้ได้ฟังบรรยายเรื่อง Microsoft Azure ที่เป็น Public Open Cloud Platform ที่สามารถทำงานกับทุกๆ Product ได้ตั้งแต่ Java, .NET หรือ Linux ซึ่งเป็นเหตุผลให้ Microsoft เปลี่ยนชื่อ Product จาก Windows Azure เป็น Microsoft Azure และพูดถึงประโยชน์การใช้ Dev Test Environment บน Azure ที่มีสำหรับ SAP, Oracle หรือ Sharepoint และพูดถึงระบบความปลอดภัยของ Azure สุดท้ายทาง Microsoft ได้พามาชม Microsoft Technology Center ที่แสดงผลิตภัณฑ์ต่างๆของ Microsoft ที่น่าสนใจ
ตอนบ่ายวันที่ 30 ตุลาคม เราไปดูงานต่อที่บริษัท VMWare ซึ่งเป็นผุ้นำการตลาดด้านซอฟต์แวร์ Virtualization ที่มาพูดถึง Software Defined Data center (SDDC) โดยพยายามเน้นให้เห็นว่าสิ่งที่ธุรกิจต้องการต่อจาก Virtualization คือ Speed/Agility ซึ่งถ้าทีมไอทีไม่สามารถให้คำตอบเรื่องนี้ได้ทีมกลุ่มธุรกืจก็จะมองข้ามทีมไอทีไปหาโซลูชั่นเช่น Public Cloud ทาง VMware แสดงโซลูชั่นสำหรับทำ Cloud Management Platform ทำให้เราสามารถสร้าง Private Cloud เพื่อตอบโจทย์ทีมกลุ่มธุรกิจในการทำ service provisioning ได้อย่างรวดเร็วการให้บริการ Infrstructure หรือ Application ตอบโจทย์ที่จะช่วยดูค่าใช้จ่ายในการใช้ไอที และช่วยตอบโจทย์ในการ operate ไอทีได้
สุดท้ายนี้คงต้องขอบคุณทุกท่านช่วยประสานงานและต้อนรับผู้เข้าอบรมในการดูงานครั้งนี้ ขอบคุณคุณเอกราช คงสว่างวงศา จาก Microsoft Thailand, คุณชลตะวัน สวัสดี จาก Amazon Web Services, ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ และ คุณเอกภาวิน สุขอนัตต์ จาก VMWare และคุณพีระพงษ์ คุณาศิริรัตน์ จาก Oracle Thailand
ธนชาติ นุ่มนนท์
IMC Institute