Screenshot 2015-05-01 21.53.22

นโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของรัฐบาลนี้คือสิ่งที่ต้องทำตามกระแสโลก เพราะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้โลกได้เปลี่ยนแปลงไปมากจากการเกิดปฎิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) การเปลี่ยนแปลงของโลกเกิดจากการเข้ามาของ Smartphone ที่ทำให้สินค้าและผลิตภัณฑ์ต่างๆเริ่มตกยุคไป อาทิเช่น กล้องวิดีโอ สมุดจดที่อยู่ walkman วิทยุทรานซิสเตอร์ แผนที่ที่เป็นกระดาษ Travel games นาฬิกาปลุก Yellow pages หรือ เครื่องคิดเลข

การเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่ตกยุค แต่มันทำให้ธุรกิจต่างๆต้องเปลี่ยนแปลงหรือล้มหายไปด้วยอาทิเช่น

  • ร้านถ่ายรูป/อัดภาพ ถูกแทนที่ด้วยการแชร์ภาพผ่าน Instagram  หรือ Facebook
  • สาขาธนาคาร เจ้าหน้าที่ Teller หรือเช็ค ถูกแทนที่ด้วย Online Banking, Mobile Banking
  • ธุรกิจการชำระเงิน ถูกแทนที่ด้วย Mobile Payment และการทำธุรกรรมผ่าน Paypal
  • สหกรณ์เรียกแท็กซี่ ถูกแทนที่ด้วย Application อย่าง Grab Taxi หรือแม้แต่แท๊กซี่เองก็ต้องแข่งขันกับ Uber หรือ Lyft
  • ร้านขายหนังสือ ถูกแทนที่ด้วยธุรกิจออนไลน์อย่าง Amazon.com และหนังสือที่เป็นกระดาษก็กำลังถูกคู่แข่งอย่าง Kindle หรือ OokBee เข้ามาแทนที่
  • ร้านเช่าวิดีโอ ถูกแทนที่ด้วย online streaming อย่าง NetFlix หรือ iTune
  • ธุรกิจการจองตั๋ว ที่พัก ถูกแทนที่ด้วยการจองตั๋วออนไลน์ อย่าง ThaiTicketMajor หรือ Agoda แม้แต่ธุรกิจโรงแรมเองก็ต้องมาแข่งขันกับธุรกิจออนไลน์อย่าง  Airbnb ที่มีเครือข่ายที่พักกว่า 800,000 แห่งใน 33,000 เมือง
  • ธุรกิจการขายรถ อาจต้องมาแข่งกับธุรกิจอย่าง Zipcar หรือ Car2Go ซึ่งอาจเกิดคำถามว่าในอนาคตจำเป็นจะต้องเป็นเจ้าของรถอีกหรือ
  • ธุรกิจ Encyclopedia Britannica ที่อยู่มาถึงปี 2010 ซึ่งมีบทความกว่า 40,000 เรื่อง และบรรณาธิการมากกว่า 100 ราย ก็ไม่สามารถจะแข่งกับ Wikipedia ที่มีบทความกว่า 35 ล้านเรื่องจากบรรณาธิการกว่า 69,000 ราย ใน 288 ภาษา

เรากำลังก้าวเข้าสู่เครษฐกิจใหม่ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล หากเราปรับตัวไม่ทันเราก็คงแข่งขันไม่ได้และล้มหายไปในที่สุด ต้องยอมรับกันตรงๆว่าแม้ประเทศไทยจะมีอัตราการใช้ดิจิทัลค่อนข้างสูง แต่ร้อยละ 90 เราเน้นเพียงเพื่อความบันเทิง ไม่ใช่เพื่อการทำงานหรือธุรกิจ จึงไม่แปลกใจที่ระยะหลังอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของเราเริ่มจะแข่งขันกับประเทศอื่นๆไม่ได้ เพราะเราก้าวตามโลกดิจิทัลไม่ทัน เราแข่งขันบทพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลลำบาก จึงความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องมีนโยบายด้านนี้ที่ชัดเจนเพื่อการแข่งขันในอนาคต

images (1)

การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลต้องเปลี่ยน Mindset ของการบริหารงาน

แม้นโยบาย Digital Economy จะพยายามเน้นให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการทำงานมากขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ Mindset เพราะวันนี้การแข่งขันไม่เหมือนเดิม ลูกค้าหรือผู้รับบริการมีข้อมูลข่าวสารมากขึ้น คู่แข่งมาจากไหนก็ได้ เศรษฐกิจใหม่เป็นเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรเน้น นวัตกรรมใหม่และ Marketplace ใหม่ ดังนั้นรูปแบบการทำงานแบบเดิมจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เราต้องรวดเร็วกว่าเดิม ต้องลดขั้นตอนการทำงาน และเน้นให้บุคลากรในองค์กรทำงานร่วมกัน

รูปแบบการทำงานที่มีลำดับชั้น (Hierarchical bureaucracies) ที่เน้นการทำงานแบบ Vertical เริ่มใช้งานไม่ได้ในการแข่งขันยุคปัจจุบัน การทำงานต้องลดขั้นตอนการบังคับบัญชา องค์กรต้องเป็นลักษณะแบนราบ (Horizontal) มากขึ้น มีสายบังคับบัญชาให้น้อยลง การสั่งงานแบบบนลงล่าง Top to Bottom จะต้องน้อยลง เน้นให้พนักงานในองค์กรมีส่วนร่วมในการทำงานมากสุด และเน้นการทำงานร่วมกันโดยใช้เครื่องมือดิจิทัลใหม่ๆที่เป็น Collaboration Tool เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถสร้างนวัตกรรมหรือบริการใหม่ๆได้

ซึ่งจะเห็นได้ว่ารูปแบบการทำงานแบบเดิมที่เน้นการทำงานเป็น Vertical จะแตกต่างกับการทำงานบนเศรษฐกิจดิจิทัลเชิงสร้างสรรที่เน้นการทำงานเป็น Horizontal มาก โดยในอนาคตองค๋กรที่ยังทำงานเป็นแบบ Vertical จะแข่งขันไม่ได้ เราจะเห็นตัวอย่างองค์กรใหม่อย่าง Facebook, Google, Apple, Amazon ล้วนแต่เปลี่ยน Mindset ในการบริหารงานเพื่อเข้าสู่เศรษฐกิจใหม่

ที่กล่าวมาทังหมดนี้ อดเป็นห่วงภาคราชการไทยไม่ได้ เพราะยังเชื่องช้ายังไม่ปรับ Mindset ในการบริหารงาน ถ้าตราบใดองค์กรยังบริหารแบบ Top Down ยังต้องทำสำเนาหนังสือ ส่งแฟกซ์ เกษียณหนังสือ ขั้นตอนการทำงานยังล่าช้า และข้าราชการไม่มีส่วนร่วมในการทำงานที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ เราแข่งขันไม่ได้หรอกครับ แม้จะมีนโยบาย Digital Economy ก็ตาม สิ่งสำคัญสุดคือการปรับ Mindset ในการบริหาร ผู้บริหารและคนทำงานต้องทำงานไม่เหมือนเดิม

การจะก้าวสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่สำคัญสุดคือภาคราชการต้องเป็นดิจิทัล เลิกการบริหารงานในรูปแบบเดิมที่เน้นระบบการสั่งงานแบบ Top Down รอการเกษียณหนังสือ ถ้ายังเป็นแบบนี้นวัตกรรมไม่เกิดครับ การทำงานล่าช้า เราก็คงจะเห็นปัญหาต่างๆที่จะตามมาอีกมากมายเช่นเดียวกับ ปัญหาเรื่องการบิน เรื่อง EU จะแบนการประมง ทั้งหมดที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเรายังไม่เปลี่ยน Mindset ในการบริหารงาน

ธนชาติ นุ่มนนท์

IMC Institute

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s