ผมเห็นว่าวันนี้ทุกคนต่างก็พูดเรื่อง Big Data ตั้งแต่คนไอทีไปจนถึงนายกรัฐมนตรี ต่างก็บอกว่าจะเอา Big Data มาใช้ในองค์กร บ้างก็บอกว่าทำแล้วบ้างก็บอกว่ากำลังทำ บางคนทำรายงานอะไรเล็กน้อยก็บอกว่าทำ Big Data อยู่ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าแต่ละคนเข้าใจความหมายของ Big Data แค่ไหน แต่ไม่ว่าจะมองนิยาม Big Data อย่างไรก็ตามผมมองว่า Big Data มีเป้าหมายสำหรับองค์กรในสามประเด็นดังนี้
- การนำข้อมูลขนาดใหญ่มาช่วยในการตัดสินใจได้ดีขึ้น เช่นสามารถตอบได้ว่าเราควรจะทำอะไร นำสินค้าใดมาขาย ลูกค้าเราอยู่ที่ใด จะใช้จ่ายงบประมาณอย่างไร
- การนำข้อมูลขนาดใหญ่มาช่วยให้การทำงานดีขึ้น เช่นทราบข้อมูลโดยทันทีว่าลูกค้าต้องการอะไร ทราบตำแหน่งของลูกค้าเป้าหมาย หรือช่วยเพิ่มยอดขาย จะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพอย่างไร
- การทำให้ข้อมูลเป็นทรัพย์สินขององค์กร และทำให้เกิด Business Transformation เช่นการนำข้อมูลที่มีอยู่ไปต่อยอดร่วมกับคู่ค้ารายอื่นๆเพื่อสร้างสินค้าใหม่ๆ
การทำ Big Data ไม่ใข่แค่เรื่องของการทำ Data Cleansing, Data Warehouse, Business Intelligence หรื่อเรื่องของเทคโนโลยี องค์กรที่จะทำ Big Data อาจต้องเปลี่ยนทัศนคติในรูปแบบเดิมๆอยู่หลายเรื่อง ซึ่งผมมักจะยกคำพูดสั้นมา 3-4 ประโยคเกี่ยวกับ Big Data ดังนี้
- Don’t think technology, think business transformation.
- Don’t think data warehouse, think data lake.
- Don’t think business intelligence, think data science.
- Don’t think “what happened”, think “what will happen”.
สุดท้ายต้องทำความเข้าใจเรื่องระดับความสามารถของการนำ Big Data ไปใช้ในองค์กร (Big Data Matuarity Model) ว่ามีอยู่ 5 ระดับดังรูปนี้ ซึ่งจะบอกได้ว่าองค์กรของเราอยู่ในระดับใด
รูปที่ 1 Big Data Business Model Maturity Index, จาก Big Data MBA, Bernard Marr
- Business Monitoring ในขั้นตอนนี้องค์กรยังเพียงแค่ทำ Business Intelligence หรือยังทำ Data Warehouse ซึ่งเป็นขั้นตอนที่เราจะแสดงข้อมูลหรือทำรายงานต่างๆขององค์กรในลักษณะของ Descriptive Analytic ที่เราจะดูข้อมูลในอดีตเพื่อให้ทราบว่า What happened?
- Business Insights ในขั้นตอนนี้จะเป็นการเริ่มต้นทำ Big Data Project ที่มีการทำ Data Lake เพื่อรวบรวมข้อมูลจากทั้งภายในและภายนอกองค์กรทั้งข้อมูลที่เป็น structure, unstructure หรือ semi-structure เพื่อทำ Predictive Analytic เพื่อให้ทราบว่า What will happen?
- Business Optimization ในขั้นตอนนี้จะเริ่มเห็นความคุ้มค่าของการลงทุนทำ Big Data Project โดยจะเป็นการทำ Prescriptive Analytic เพื่อให้ทราบว่า How should we make in happen?
- Data Monetization ในขั้นตอนนี้จะเป็นการขยายผลเพื่อนำ Data ที่จะเป็นทรัพยากรขององค์กรไปใช้เป็นสินทรัพย์ในการทำงานร่วมกับคู่ค้าหรือองค์กรอื่นๆ
- Business Metamorphosis ในขั้นตอนนี้จะเป็นขั้นสูงสุดของการทำ Big Data ที่จะเห็นเรื่องของ Business Transformation ในองค์กรซึ่งอาจเห็นรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ธุรกิจใหม่ หรื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ๆขององค์กร
จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเห็นได้ว่า การทำ Big Data Project ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างที่เข้าใจ จำเป็นต้องปรับวิธีคิดในองค์กรอย่างมาก และต้องเข้าใจเป้าหมายและระดับขั้นของการทำ Big Data ในองค์กร
ธนชาติ นุ่มนนท์
IMC Institute
พฤศจิกายน 2560