“มี All member ไหมครับ” คือคำถามที่พนักงาน 7-11 จะถามผมทุกครั้งที่ผมจะจ่ายค่าสินค้า
การเป็นสมาชิกของร้านค้าต่างๆเช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ สถานีบริการเติมน้ำมัน หรือแม้แต่บริการออนไลน์ต่างๆอย่าง Grab, Rabbit Line ก็อาจมีข้อดีในการที่จะได้บริการหรือสิทธิพิเศษที่ได้มากขึ้น เช่นอาจได้ของแถม อาจได้ส่วนลด แต่ทั้งหมดนี้อาจต้องแลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่จะต้องถูกผู้ให้บริการเหล่านั้นสามารถนำข้อมูลของเราไปวิเคราะห์ได้
ทุกวันนี้ผมเป็นสมาชิกของร้านค้าและบริการต่างๆนี้มากพอแล้ว ทั้งการใช้ IoT, Mobile App หรือการใช้บัตรสมาชิก ผมรู้ว่าวันนี้ความเป็นส่วนตัวผมได้หายไปเยอะมาก จนน่ากลัว
- ผมทานกาแฟ และสมาชิก Starbucks เวลาไปเปิดดู ข้อมูลของผมที่แสดงในเว็บไซต์ จะเห็นเลยว่า แต่ละวันมียอดค่าใช้จ่ายอย่างไร ผมเองเชื่อว่า ข้อมูลนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เขาเอามาแสดงให้ผู้บริโภคเห็น แต่จริงๆแล้วข้อมูลในฐานข้อมูลน่าจะเก็บรายละเอียดมากกว่านี้ โดย Starbucks ก็คงทราบว่าผมไปทานกาแฟร้านไหน และสั่งอาหารอะไร
รูปที่ 1 ตัวอย่างข้อมูลการใช้บัตร Starbucks ที่แสดงให้ผู้ใช้ดู
- ผมเป็นสมาชิกของ NetFlix มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เวลาผมเข้าไปดูข้อมูลในเว็บไซต์ ก็จะเห็นว่า NetFlix จะแสดงรายชื่อหนังที่ผมดู แต่พอไปค้นข้อมูลด้านการทำ Big Data Analytic ของ NetFlix ทำให้ทราบว่าเขาเก็บข้อมูลผมมากกว่านี้ มีทั้งรู้ว่าผมเลือกหนังอะไร แลัวดูจริงไหม มีการ Pause ไหม มีการ Fast Forward ไหม
รูปที่ 2 ตัวอย่างข้อมูลการดูหนังของ NetFlix ที่แสดงให้ผู้ใช้ดู
- ผมซื้อของจาก E-commerce หลายเจ้าท้้ง Lazada, AliExpress, Amazon.com ผมสามารถเห็นข้อมูลการสั่งซื้อในอดีตของผมได้ และเชื่อว่าผู้ให้บริการเหล่านี้เก็บข้อมูลไปมากกว่านี้ คงรู้ว่าผมไป Click รายการสินค้าอะไรบ้าง Review อะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็คงเกิดขึ้นกับบริการออนไลน์อื่นๆที่ผมใช้ทั้ง LineMan, Grab, Agoda, Kayak
- ผมใช้บัตรทางด่วน EasyPass ซึ่งจัดว่าเป็น IoT เวลาเปิดดูข้อมูลใน App ก็จะเห็นรายละเอียดว่า ผมผ่านทางด่วนด่านไหนบ้าง เวลาไหน
- ผมมีอุปกรณ์ Smart Home ของ Xiaomi เต็มบ้าน เวลาเข้ามาดู Log ก็จะเห็นได้ว่า ประตูบ้านเปิดปิดตอนไหน มี Motion sensor ที่มี Log ให้เห็นการเครื่องไหวในบ้าน มีเครื่องไฟฟ้าที่ต่ออินเตอร์เน็ต หรือมีกล้อง ทำให้รู้เลยว่าผู้ให้บริการเก็บข้อมูลไว้หมด จนบางครั้งนี่ก็อาจต้องระมัดระวังว่า กล้องที่ใช้อยู่จะมีการเก็บภาพไปไว้ที่ระบบของผู้ให้บริการ
รูปที่ 3 ตัวอย่างข้อมูล IoT ของ Xiaomi และ EasyPass ที่แสดงให้ผู้ใช้ดู
- ผมใช้อุปกรณ์ Wearable เพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพหลายอย่าง ทั้งการออกกำลังกาย การเดิน มีเครื่องวัดความดัน เครื่องชั่งน้ำหนัก ข้อมูลเหล่านี้เก็บไว้บน Cloud ผมสามารถมาตรวจสอบดูได้ และก็คิดว่าผู้ให้บริการก็อาจเอาข้อมูลผมไปวิเคราะห์ได้
- ผมใช้บริการการเงินสารพัดอย่างตั้งแต่ บัตรเครดิต, Mobile Banking, True Wallet, PayPal, Lazada Wallet, Rabbit LinePay ทุกครั้งที่ชำระเงิน ผู้ให้บริการก็เก็บข้อมูลไป ซึ่งผมสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการเก็บข้อมูลอย่างไรผ่านระบบ App หรือเว็บไซต์จึงไม่แปลกใจว่าทำให้พวกเขาถึงสามารถวิเคราะห์ข้อมูลผมได้
- ยังมีบริการออนไลน์หรือ IoT อีกหลายอย่างที่ผมใช้ทั้ง Google Home, Google Assitant, Amazon Echo, Spotify ซึ่งบริการเหล่านี้ก็คงเก็บข้อมูลของผมไปมากมายเช่นเดียวกัน
ใช่ครับวันนี้เราคงต้องคิดให้ดีกับการจะสมัครเป็นสมาชิกหรือการใช้บริการเหล่านี้ เพราะความเป็นส่วนตัวเราจะหายไป เราจะถูกติดตามและตรวจสอบได้หมด ยิ่งถ้าบริการนั้นมาผูกกับบัตรประชาชนเราหรือข้อมูลใดที่สามารถระบุตัวตนเราได้ก็ยิ่งมีความเสี่ยง บางทีเราอาจดีใจที่ได้ส่วนลดหรือบริการที่ดีขึ้นแต่คงต้องระวังกันพอควรละครับ บางทีผมก็นึกถึงหนัง The Net หรือ Enemy of the State ที่แม้จะสร้างมาเมื่อ 20 ปีก่อน แต่มันก็กำลังเป็นเรื่องจริงแล้วในยุคปัจจุบัน
ธนชาติ นุ่มนนท์
IMC Institute