ตอนที่ผมได้ข่าวว่า Facebook ซื้อกิจการของ Whatsapp ด้วยวงเงิน 19 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ผมแปลกใจมาก เพราะ Whatsapp เป็นบริษัทที่ก่อตั้งมาเพียง 5 ปีมีพนักงานเพียง 50 คน คำนวณแล้วเป็นเงินถึง 380 ล้านเหรียญสหรัฐต่อพนักงานแต่ละคน วงเงิน 19 พันล้านเหรียญสหรัฐแบ่งเป็นเงินสด 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปของหุ้นของ Facebook อีก 12 พันล้านเหรียญสหรัฐ และอีก 3 พันล้านเหรียญสหรัฐจะเป็นหุ้นที่จะทยอยให้กับพนักงานในอีก 4 ปีข้างหน้า
การซื้อกิจการ Facebook ถือว่าเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นอันดับสองจาการเข้าซื้อบริษัทด้านเทคโนโลยีโดยการซื้อกิจการทีใหญ่ที่สุดคือการที่ HP เข้าซื้อ Compaq เมื่อปี 2001 ซึ่งเมื่อปรับค่าตามเงินเฟ้อในปีนี้จะพบว่ามีมูลค่าถึง 33.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ มูลค่าที่ Facebook ซื้อ Whatsapp ทำให้ผมนึกถึงบริษัทเก่าผมคือ Sun Microsystems ที่ถูก Oracle ซื้อไปด้วยมูลค่า 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2010 และนึกถึงตอนที่ Microsoft ซื้อ Nokia เมื่อปีทีแล้วด้วยมูลค่า 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ สองบริษัทนี้ถูกซื้อถูกจนเกินไปไหม Sun Microsystems มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีมากมายทั้ง Java, MySQL และเครื่อง Server และนวัตกรรมเหล่านั้นยังคงอยู่และเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลาย ส่วน Nokia ก็มีนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่และมีทีมวิจัยและพัฒนาที่เข้มแข็ง คำถามคือ Whatsapp มีอะไร ที่คุ้มค่ากับการซื้อกิจการครั้งนี้
หากเราลองมาดูการเข้าซื้อกิจการนับตั้งแต่ปี 1998 ที่วิเคราห์โดย BI Intelligence เราจะพบว่าการควบกิจการของบริษัท Technology ต่างๆในอดีต จะถูกซื้อโดยบริษัทด้าน Hardware/Software รายใหญ่ๆอย่าง HP, Oracle และ IBM โดยบริษัทเหล่านั้นพยายามจะขยายฐานทางด้าน Products ที่ตัวเองมีอยู่เช่น HP ซื้อ Compaq, EDS และ Mercury หรือ Oracle ที่ซื้อบริษัทฮาร์ดแวร์อย่าง Sun Microsstems และซื้อบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง Peoplesoft, BEA และ Hyperion
แต่ในระยะหลังบริษัทที่เข้ามาซื้อกิจการกลับเป็นบรืษัทที่ทำอินเตอร์เน็ตอย่าง Yahoo, Facebook, Google และ Microsoft และจุดประสงค์ก็เพื่อที่จะขยายฐานลูกค้าบนอินเตอร์เน็ตผ่านซอฟต์แวร์ต่างๆ รวมไปถึงการหาซื้อเทคโนโลยีอย่างโทรศัพท์มือถือ เราจึงภาพของ Microsoft มาซื้อโปรแกรมอย่าง Skype หรือกิจการโทรศัพท์อย่าง Nokia เห็น Google เข้าซื้อ Youtube และ Motorola และ Facebook เข้าซื้อ Instagram และ Whatsapp
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ Whatsapp ยังมีฐานลูกค้ามากพอหรือ ในปัจจุบัน Whatsapp ก็ยังครองตลาดค่อนข้างสูง โดยมีจำนวนผู้ใช้ประมาณ 450 ล้านราย ซึ่งทาง Statistica ระบุว่ามี Active Users ในเดือนสิงหาคมถึง 300 ล้านราย
แม้ในประเทศไทยตลาดด้าน Mobile Messaging Application จะเป็นตลาดของ Line แต่ข้อมูลของ Onava เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้วแสดงให้เห็นว่า Whatsapp ยังครองตลาดในหลายๆประเทศโดยเฉพาะตลาดใน Latin America รวมถึงประเทศในอเมริกาใต้อย่างบราซิล และครองตลาดยุโรปหลายๆประเทศทั้ง เยอรมัน อังกฤษ และ อิตาลี และยิ่งถ้ามารวมกับ Facebook Messaging ก็จะเป็นตลาดอันดับหนึ่งในหลายๆประเทศรวมทั้งอเมริกา ส่วนตลาดของ Line หลักๆก็เป็นของญี่ปุ่นซึ่งมีความเฉพาะ เหมือนกับ Kakao Talk ที่ใช้เฉพาะในประเทศเกาหลี และ WeChat ของจีน
ดังนั้นถ้าดูข้อมูลการเข้าซื้อ Whatsapp แล้วคงคาดได้ว่า สิ่งที่ทาง Facebook คาดหวังส่วนหนึ่งก็คือฐานข้อมูลลูกค้า และการเป็นเบอร์หนึ่งด้าน Messaging Apps แต่จะคุ้มค่ากับเงิน 19 พันล้านเหรียญสหรัฐที่เป็นเงินสดถึง 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ คงต้องรอดูกันต่อไป