10687216_434767803337232_5541506154205665487_n

เผลอแป๊ปเดียวก็ผ่านไปอีกปีแล้ว เวลามันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว บางครั้งก็นึกเสียดายบางช่วงเวลาที่คิดว่าเราน่าจะทำอะไรได้ดีกว่านี้ แต่สิ่งที่ผ่านไปแล้วมันก็คงต้องปล่อยให้มันผ่านไป เราแก้ไขอดีตไม่ได้แต่เราสามารถที่จะทำให้อนาคตดีขึ้นได้ ในฐานะของคนไอทีเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีมันมีการเปลี่ยนแปลงตลอด ถ้าใครอยู่นิ่งไปจมอยู่กับอดีตไม่มองถึงเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงก็จะลำบาก บางครั้งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนอาชีพอื่นเขาต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆมากมายตลอดเวลาเช่นนี้ไหมและต้องไล่ล่ากับอนาคตเพื่อให้อยู่รอดในวิชาชีพอย่างคนไอทีหรือเปล่า

20  ปีที่ผ่านมาเราเห็นการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผมเองก็ต้องคอยเรียนรู้และก้าวให้ทันกับสิ่งใหม่ๆเสมอ คงไม่ต้องบอกว่าผมเรียนรู้คอมพิวเตอร์มาจากยุคเจาะบัตรด้วยภาษา  Fortarn IV ต้องมาใช้ไมโครคอมพิวเตอร์ยุคที่ยังไม่มี Harddisk เชื่อครับมีคนในอุตสาหกรรมหลายคนในปัจจุบันทีมาจากยุคเก่ากว่าผมอีก แต่ผมอยากตัดบทไปถึงแค่สิบห้าปีก่อน จำได้ว่าตอนนั้นภาษา  Java กำลังเข้ามา ผมเองก็ต้องขนขวายเสียเงินทองไปเรียนและสอบ Certifiied Java Programmer พอยุค Web Server/App Server มาก็ต้องมานั่งศึกษา Java EE มาเรียน Enterprise Application ทำให้เข้าใจ IT Architecture มากขึ้น พอยุค Smart Mobile  รุ่นแรกเข้ามาเมื่อสิบปีก่อนก็ต้องมาเรียนรู้ Java ME เขียนโปรแกรมบน Nokia 7650 และไปอบรมคนทั่วประเทศ

พอถัดมาคนมาพูดถึง Web Services ก็ต้องมาเรียนกันใหม่ มามองเรื่อง Cross Platform และก็ต้องพูดถึง Application Programming Interfaces (APIs) แล้วก็ต้องมาว่ากันถึงเรื่องของ Service Oriented Architecture (SOA) และก็เริ่มมอง Programming Language ที่หลายหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Python, Ruby และก็ต้องดู Web Framework ต่างๆ จะเห็นได้ว่าคนไอทีแทบไม่เคยได้ต้องหยุดเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

ห้าปีก่อนพอเรื่อง  Cloud Computing เข้ามา ผมก็เป็นคนแรกๆในบ้านเราที่ไปบรรยายเรื่องนี้ และทดลองเล่น  Cloud Platform ต่างๆทั้ง IaaS, SaaS  และ PaaS พยายามจะบอกกับหลายๆคนว่าวันนี้ไอทีต้องไป Cloud  และตอนนั้นก็เป็น ผอ. Software Park ก็พยายามจัดสัมมนาและร่วมกลุ่มพันธมิตรทางด้าน Cloud Computing  เพื่อชี้ให้เห็นว่า Cloud Computing transforms IT และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์จะต้องขึ้น Cloud ในยุคที่ผมเป็นผอ. Software Park นอกจาก Cloud แล้วก็จะพูดถึงเรื่อง Mobile เพราะเชื่อว่า Devices กำลังจะเปลี่ยนสู่ยุคของ Smartphone/Tablet  จนมีคนแซวผมว่าหน้าผมคือ  Cloud and Mobile

ทันทีที่ผมก่อตั้ง IMC Institute เมื่อสองปีที่ก่อน ผมเริ่มที่จะจัดอบรม Big Data และพยายามจะจัดสัมมนาด้านนี้มากขึ้นเพราะผมเชื่อว่าเรื่องนี้กำลังจะมา และเราจำเป็นต้องสร้างบุคลากรทางด้านนี้ โดยผมเน้นเรื่องของเทคโนโลยี Hadoop ที่สามารถเก็บ Unstructure Data ได้มหาศาล ช่วงเวลาสองปีทาง IMC Institute ก็ได้อบรมคนไปหลายร้อยคน และก็ได้ช่วยทำให้คนเข้าใจเทคโนโลยีนี้มากขึ้น

กระแส Big Data กำลังมาอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้จำนวน Devices ทั่วโลกมีหลายพันล้าน คนใช้อินเตอร์เน็ตมีมากขึ้น มีการใช้ Social Network มีมากขึ้น และเรื่องของ Internet of Things  กำลังมา สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่มีการสร้างข้อมูลใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา จำนวนข้อมูลมากขึ้นทุกวันและมีข้อมูลที่เป็น Unstructure จำนวนมาก จึงมีความจำเป็นต้องหาเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ผมเชื่อว่าในปี 2015 นี้เรื่องของ Big Data Analytics จะมีความสำคัญมากขึ้น เพราะธุรกิจต่างๆจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น ใครก็ตามที่สามารถจะนำข้อมูลขนาดใหญ่มาวิเคราะห์ได้คนนั้นจะได้เปรียบเหนือคู่แข่ง Big Data transform Business

ภาพโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล (Information Infrastructure) ในอนาคตขององค์กรจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะขนาดข้อมูลที่ใหญ่ขึ้น และชนิดข้อมูลที่หลากหลาย เราน่าจะเป็นโครงสร้างที่ใช้เทตโนโลยีต่างๆมากขึ้นดังตัวอย่างในรูป

Screenshot 2015-01-02 21.52.09

รูปตัวอย่าง Information Infrastructure ขององค์กร

ปี  2015 เราควรจะต้องเตรียมพร้อมอย่างไรบ้างกับเรื่องของ Big Data Analytics

1) องค์กรต้องมี Big Data Strategy: ฝั่งธุรกิจและไอทีคงต้องมาร่วมกันในการวางแผนที่จะนำข้อมูลมาใช้ในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้เข้าใจและคาดการณ์ข้อมูลลูกค้า สินค้า หรือคู่แข่งได้ดีขึ้น โดยต้องสามารถที่จะใช้ข้อมูลจากขั้น Business Intelligence ไปสู่ Predictive Analytics

2) องค์กรต้องมีการวางแผนด้าน Information Infrastructure ใหม่: ข้อมูลในอนาคตจะมีขนาดใหญ่มาก การจะวางโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลขององค์กรให้ขึ้นกับ Database หรือ  Enterprise Datawarehouse (EDW) แต่อย่างเดียวคงไม่สามารถเป็นไปได้ เพราะค่าใช้จะสูงมาก คงต้องเริ่มพิจารณาเทคโนโลยีอย่าง Hadoop หรือ NoSQL ด้วย

3)  องค์กรต้องเร่งพัฒนาบุคลากรด้านข้อมูล: เทคโนโลยีด้านนี้จะเปลี่ยนไปมาก องค์กรจำเป็นต้องพัฒนาบุคลากรทั้งที่จะเป็น  Chief Data Office, Data Architecture, IT Profeession, BI Analysis และ Data Scientist

ครับเราคงต้องเริ่มที่จะต้องเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคของ Big Data Analytics  กันแล้ว

ธนชาติ นุ่มนนท์

IMC Institute

มกราคม 2558

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s