Screenshot 2019-09-29 14.55.10

(เอกสารนี้ส่วนหนึ่งผมเขียนโดยการสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Voice typing ของ Google doc)

ทุกวันนี้ AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างมาก เครื่องมือจำนวนมากที่เราใช้ในชีวิตประจำวันก็อาจมีระบบอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ฝังอยู่ ซึ่งบางทีเราก็อาจไม่ได้ใช้ฟังก์ชั่นเหล่านั้นเต็มที่หรือบางทีก็อาจไม่ทราบว่ามันคือเอไอที่แทรกซึมมาในชีวิตประจำวันเรียบร้อยแล้ว เช่น Google Map ที่นอกจากจะบอกเส้นทางเรา ยังสามารถคาดการณ์เวลาในการถึงที่หมาย การใช้ระบบอีเมล์ที่อาจคาดการณ์ Spam email ให้เราหรือตอบอีเมลให้เราอัตโนมัติ หรือการดูหนังผ่าน NetFlix ที่อาจแนะนำหนังที่เราชื่นชอบได้อย่างที่เราไม่คาดคิดว่าทราบได้อย่างไร

ในเมื่อ AI เริ่มเข้ามาในชีวิตประจำวันเรา และในอนาคตจะมีผลต่อการทำงาน ผมจึงอยากแนะนำให้เราใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อให้ได้ประสบการณ์และคุ้นเคยกับการใช้ AI โดยวิธีการง่ายๆก็อาจใช้โปรแกรมต่างๆในมือถือ  smartphone หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่านโดยใชโปรแกรมที่มีฟังก์ชั่น AI ต่างๆ

ตัวผมเองใช้มือถือ  iPhone แต่ก็มักจะโหลดโปรแกรม AI ของค่ายอื่นๆอาทิเช่น Google หรือ Xiaomi หลายๆตัวมาใช้อาทิเช่น Google Assistant, Google Home, Google Lens, Google Map, Mii Home เป็นต้น

ผมมีข้อแนะนำให้กับคนที่สนใจจะใช้ AI ว่าเราจะสัมผัสกับ AI ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร โดยอาจเริ่มทดลองการใช้โปรแกรมต่างๆดังนี้

  • Google Assistant หรือ Siri โดย เราอาจทดลองใช้ คำสั่งง่ายๆในการสั่งงานด้วยเสียงเช่น “OK Google, what is the weather today?” หรือ “OK Google, say ‘I love you’ in Thai” หรือ “OK Google, shows my photos of animal” โดยเราอาจดูตัวอย่างการใช้ Google Assistant ได้จากคลิปนี้
  • Google Map จริงๆแล้วผมก็เชื่อว่าหลายคนได้เคยใช้ Google Map แต่บางคนอาจเพียงแค่ต้องการทราบเส้นทาง แต่แท้จริงแล้ว Google Map มีฟังก์ชั่นของ AI อยู่มากมายอาทิเช่นเราสามารถใช้ในการหาระยะเวลาที่จะไปถึงเป้าหมาย หรือเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด หรือหาร้านอาหารใกล้ตัว แม้บางครั้ง Google Map ไม่ได้บอกได้ถูกต้อง 100% แต่การที่เราใช้เป็นประจำก็จะทำให้เราเข้าใจชีวิตประจําวันการใช้ AI มากขึ้น
  • การใช้ Gmail หรือ Google Calendarโปรแกรมเหล่านี้มีระบบ AI ที่ทำให้ได้มากกว่าการแค่ส่งอีเมลหรือตั้งเวลาปฏิทิน มันสามารถที่จะให้เราเลือกวันเวลานัดหมายได้อัตโนมัติ มี AI ในการที่จะตอบอีเมล์หรือเรื่องต่างๆได้ หรือเลือกให้นัดเวลาหลายๆคนที่ว่างพร้อมกันได้อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมโยงกับ Google Assistantให้เรา ตรวจสอบ ตั้ง หรือลบปฎิทิน โดยสั่งงานด้วยเสียงได้
  • ทดลองใช้ ChatBot ของที่ต่างๆ เราจะพบว่าทุกวันนี้นี่หลายๆองค์กรมีการนำแชทบอทมาใช้ดังนั้นประสบการณ์ของการใช้แชทบอทก็จะทำให้เราเข้าใจเรื่องของ AI มากขึ้น
  • การใช้ Google Translator ในการแปลภาษาต่างๆอาทิเช่นการพูดแล้วให้แปลๆสดหรือการถ่ายรูปแล้วให้แปลอัตโนมัติ วิธีการนี้ผมใช้บ่อยเวลาเดินทางไปต่างประเทศหรือเจอคนต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ บางครั้งเวลาเข้าไปร้านค้าเห็นข้อความภาษาต่างประเทศที่ไม่เข้าใจก็จะใช้กล้องส่องแลัวใช้ Google Translator แปลสดๆ
  • ทดลองใช้ Voice typing แทนที่จะใช้คีย์บอร์ดในการพิมพ์เอกสารโดยเปิดใช้โปรแกรม Google doc อย่างนม แม้ในบางครั้งอาจจะพิมพ์ไม่ถูกต้อง 100% แต่ประสบการณ์การใช้งานจะทำให้เราเห็นประโยชน์ของ AI มากขึ้นและในอนาคตผมเชื่อว่า Voice typing จะเก่งกว่านี้อีกมากจนเราอาจไม่ต้องพิมพ์เอง

Screenshot 2019-06-24 08.48.14

รูปที่ 1: ตัวอย่างการทำ  Voice Typing โดยใช้ Google Doc

  • การใช้ Google Lens เป็นโปรแกรมที่เราสามารถใช้ในการหาได้ว่ารูปนั้นคืออะไร อาจเป็นสถานที่ ต้นไม่ ร้านค้า หรือสินค้าต่างๆ โปรแกรมก็จะสามารถและค้นหาความหมายให้เราได้

Screenshot 2019-06-24 17.29.20

รูปที่ 2: ตัวอย่างการใช้ Google Lens เพื่อแปลเอกสารสดๆจากกล้อง

Screenshot 2019-06-24 17.35.00

รูปที่ 3: ตัวอย่างการใช้ Google Lens เพื่อค้นหาสินค้าจากรูป

  • ติดตั้ง App ใหม่ๆที่มีระบบ AI เพื่อทดลองเล่นเช่นโปรแกรมการแต่งภาพอย่าง FaceApp หรือโปรแกรมสั่งงานด้วยเสียงต่างๆ

การเริ่มต้นใช้ AI จากโปรแกรมเหล่านี้จะทำให้เราคุ้นเคยกับระบบ AI มากขึ้น และก็เป็นการเตรียมความพร้อมของตัวเองสู่การใช้ชีวิตในโลกของอุตสาหกรรม 4.0 และอาจขยายต่อไปใช้ในเรื่องอื่นๆเช่นการใช้ Smart home หรือการทำงานโดยใช้เครื่องมือที่มีระบบ AI มาเสริม

ธนชาติ นุ่มนนท์

สถาบัน

ใส่ความเห็น