เมื่อเร็วๆนี้ผมได้วาดภาพกราฟฟิก เพื่อแสดงให้เห็นถึงแผนแม่บทด้านไอซีทีของประเทศต่างๆในกลุ่ม ASEAN โดยจะเห็นได้ว่า ASEAN มีแผนที่เรียกว่า ASEAN ICT Masterplan 2015 และในแต่ละประเทศก็จะมีแผนแม่บทไอซีทีของตนเอง ผมจึงตั้งใจที่จะเขียนบล็อกนี้มาขยายความเพื่อให้เข้าใจถึงแผนแม่บทต่างๆที่ได้อ้างอิงถึง
ASEAN ICT Masterplan 2015
แผนยุทธศาสตร์ด้านไอซีทีของ ASEAN เกิดจากมติที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ TELMIN เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2008 ที่ได้เห็นชอบโครงการจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอาเซียน หรือ ASEAN ICT MASTERPLAN 2015 และอนุมัติการสนับสนุนเงินจากกองทุน ASEAN ICT Fund เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทางกิจกรรมความร่วมมือด้านไอซีทีและสนับสนุนการรวมกลุ่มของอาเซียน และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านไอซีที
หลังจากนั้นในการประชุม TELMIN ครั้งที่ 10 เมื่อเดือนมกราคม 2011 จึงได้มีการรับรองแผนแม่บท ASEAN ICT Masterplan 2015 และมีการประกาศแผนแม่บทฉบับดังกล่าวอย่างเป็นทางการ โดยเป็นแผนแบบเบ็ดเสร็จที่มีการระบุยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน เป้าหมาย รวมทั้งระยะเวลาการดำเนินการภายใน 5 ปีที่ชัดเจน
ดร.มนู อรดีดลเชษฐ์ ได้เคยเขียนบทความที่สรุปแผนแม่บท ASEAN ICT Masterplan 2015 ไว้เป็นภาษาไทยไว้ที่ http://www.ddn.ac.th/web/aseanictmasterplan2015.pdf ซึ่งในเนื้อหาจะเห็นได้ว่าแผนมีบทจะมียุทธศาสตร์ที่สำคัญ 6 ด้านคือ
- การปฎิรูปทางเศรษฐกิจ
- การเสริมสร้างพลังใหัแก่ประชาชนและให้ประชาชนมีส่วนร่วม
- การสร้างนวตกรรม
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
- การพัฒนาทุนมนุษย์
- การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเทคโนโลยี
ดังแสดงในรูป โดยแผนแม่บทฉบับจริงสามารถที่จะ download ได้ที่ www.asean.org แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาแผนแม่บทฉบับนี้ จะเห็นได้ว่ามีเพียงกรอบเวลาการทำงานคร่าวๆและไม่มีตัวชี้วัดที่ขัดเจน
แผนแม่บท iN2015 ของสิงคโปร์
Intelligent Nation 2015 (iN2015) เป็นแผนแม่บทด้านไอซีทีของรัฐบาลสิงคโปร์ที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2005 ที่กำหนดให้ในสิบปีข้างหน้าที่จะผลักดันให้สิงคโปร์กลายเป็น Intelligent Nation โดยใช้ศักยภาพของ Infocomm ซึ่งแผนแม่บทนี้ได้ถูกร่างโดยหน่วยงานที่ชื่อ Infocomm Development Authority (IDA)
ซึ่งวิสัยทัศน์ของแผนกำหนดไว้ว่า “Singapore: An Intelligent Nation, A Global City, Powered By Infocomm.”
เป้าหมายหลักของแผน iN2015 มีดังนี้
- ผลักดันให้สิงคโปร์เป็นประเทศอันดับหนึ่งของโลกในการที่จะนำ Infocomm มาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคม
- เพื่มมูลค่าอุตสาหกรรมด้าน Infocomm เป็นสองเท่าคือมีมูลค่า $26 พันล้านเหรียญสิงคโปร์
- เพิ่มมูลต่าการการส่งออกทางด้าน เป็นสามเท่าคือมีมูลค่า $60 พันล้านเหรียญสิงคโปร์
- เพิ่มงานด้าน Infocomm อีก 80,000 ตำแหน่ง
- ทำให้มีการใช้งาน Broadband ตามบ้านถึงร้อยละ 90
- ทำให้ทุกบ้านที่มีเด็กที่จะต้องศึกษาในโรงเรียนมีคอมพิวเตอร์ใช้งาน
และเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมาย แผนแม่บทได้กำหนดยุทธศาสตร์สี่ด้านคิอ
- ผลักดันให้กลุ่มอุตสาหกรรมหลักต่างๆ ภาครัฐ และสังคมมีนวัตกรรมการใช้ Infocomm มากขึ้น
- มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Infocomm ที่มีความเร็วสูง ชาญฉลาด และน่าเชื่อถือ
- มีการพัฒนาอุตสาหกรรม Infocomm ที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้
- มีการพัฒนากำลังคนด้าน Infocomm ที่สามารถแข่งขันในระดับโลกได้
โดยเราสามารถที่จะศึกษาดูแผนของ iN2015 ได้จากรายงานของ iN2015 Steering Committee >> รายงาน
แผนแม่บท Digital Strategy ของฟิลิปปินส์
แผนแม่บทของฟิลิปปินส์เป็นแผน 5 ปีตั้งแต่ปี 2011 ซึ่งเป็นแผนต่อจากแผนแรกเมื่อปี 2006-2010 โดยชูคำว่า “Transform 2.0 : Digitally Empowered Nation” แผนของฟิลิปปินส์จะให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรม BPO (Business Process Outsourcing), KPO (Knowledge Process Outsourcing), CPO (Creative Process Outsourcing), ITO (IT Outsourcing) รวมถึงด้าน e-Government และงานด้านสังคม โดยได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว่ว่า
““A digitally empowered, innovative, globally competitive and prosperous society where everyone has reliable, affordable and secure information access in the Philippines. A government that practices accountability and excellence to provide responsive online citizen-centered services. A thriving knowledge economy through public-private partnership.”
โดยมียุทธศาสตร์สี่ด้านดังรูปคือ
- การลงทุนในการให้ประชาชนมีทักษะในการใช่้ไอซีที
- การให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงระบบอินเตอร์เน็ต
- ยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมไอซีทีและนวัตกรรมทางธุรกิจ
- การมีบริการ e-service ของรัฐบางที่มีประสิทธิภาพและโปร่งใส
สำหรับเป้าหมายที่สำคัญของแผนแม่บทนี้คือ
- การเพิ่มรายได้ของอุตสาหกรรม ITO และ BPO เป็น $20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตั้งเป้าที่จะมีสัดส่วนการตลาดของ BPO ในโลกถึง 9% ในปี 2016
- เพิ่มจำนวนงานของ IT/BPO ให้เป็น 900,000 ตำแหน่งในปี 2016
- ให้มีสัดส่วนการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตที่ความเร็วอย่างน้อย 2 Mbps ตามบ้านให้ได้ร้อยละ 80
เราสามารถที่จะ download แผนแม่บท Digital Strategy ฉบับเต็มได้ที่ >> แผนแม่บท
แผนแม่บทไอซีทีของประเทศเวียดนาม
นายกรัฐมนตรีของเวียดนามได้อนุมัติแผนแม่บทไอซีมีของเวียดนามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2010 โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันเวียดนามให้กลายเป็นประเทศที่ี่มีความก้าวหน้าด้าน ICT ในปี 2020 ( “Transforming Vietnam into and advanced ICT”) นอกจากนี้รัฐบาลเวียดนามยังมีการอนุมัติแผนการพัฒนาบุคลากรด้านไอทีถึงปี 2015 และมุ่งเป้าปี 2020 (IT HR development up to 2015 and toward 2020.) ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2009
แผนแม่บทไอซีทีมีเป้่าหมายต่างๆที่สำคัญดังนี้
- ต้องการเพิ่มให้อุตสาหกรรมไอซีทีมีรายได้รวมเป็นสัดส่วนร้อยละ 10% ของ รายได้รวมประชาชาตื GDP ในปี 2020
- ผลักดันให้เวียดนามติด Top Ten ในประเทศทางด้านการบริการ Outsourcing เรื่อง Software และ Digital Content
- ผลักดันให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เป็น sector ทีมีการเจริญเติบโตมากสุด
- ต้องการเพิ่มจำนวนแรงงานทางด้านอุตสาหกรรมไอซีทีให้เป็น 1 ล้านคนในปี 2020
- ให้มีการใช้ Mobile Broadband ครอบคลุมถึง 95% ของจำนวนประชากร
- ให้ประชากรร้อยละ 70 สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้
- ให้มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึงตามบ้านร้อยละ 50-60%
ตัวแผนแม่บทฉบับจริงของเวียดนามหาค่อนข้างยาก แต่มี Presentation ที่สรุปสั้นๆสามารถดูได้ที่ >> Vietnam ICT
แผนแม่บทไอซีทีของมาเลเซีย
รัฐบาลมาเลเซียมีแผนในการที่จะผลักดันให้ประเทศเป็นชาติที่มีรายได้สูง (High-Income Nation) ในปี 2020 :ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้กล่าวเมื่อปี 2011 ว่ากำลังเตรียมพัฒนาแผน Digital Malaysia โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ
- จะให้ทุกบ้านสามารถเข้าถึง Broadband Internet ได้ในปี 2020
- จะผลักดันให้อุตสาหกรรมไอซีทีมีรายได้รวม7% ของรายได้รวมของชาติ (GNI)
- จะผลักดันให้เกิดตำแหน่งงานใหม่ด้่นไอซีทีอีก 160,000 ตำแหน่ง
แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารค้นหาแผนแม่บทของมาเลเซียล่าสุดได้ เข้าใจว่ายังอยู่ระหว่างการทำแผน
สำหรับแผนแม่บทไอซีทีของมาเลเซียคือ National IT Agenda (NITA) ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1996 โดยในช่วงแรกได้เน้นเรื่องการพัฒนา Multimedia Super Corridor (MSC) และกลยุทธ์ก็จะเน้นอยู่ในห้าด้านคือ E-Community, E-Public Services, E-Learning, E-Economy และ E-Sovereignty โดย NITA จะมีองค์ประกอบสำคัญสามด้านคือ คน (people) โครงสร้่างพื้นฐาน (Infostructure) และ แอพพลิเคชั่น ดังรูป
สำหรับรายละเอียดของ National IT Agenda สามารถดูไดที่เว็บไซต์ http://nitc.mosti.gov.my/
นโยบายและแผนแม่บทไอซีทีของประเทศไทย
สำหรับประเทศไทยเราจะมีกรอบนโยบายไอซีทีฉบับที่สอง ICT 2020 (2011-2020) ซึ่งต่อจากแผน ICT2010 และได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกันยายน 2010 และก็มีแผนแม่บทไอซีที ICT Masterplan 2 (2009-2013) ที่ขอความเห็นชอบจากครม.เมื่อสิงหาคม 2009
โดยตัวกรอบนโยบาย ICT 2010 ฉบับเต็มสามารถที่จะดูรายละเอียดได้ที่ >> กรอบนโยบาย ICT 2010
และแผนแม่บท ICT Masterplan 2009-2013 สามารถดูรายละเอียดได้ที่ >> ICT Masterplan
กรอบนโยบาย ICT 2010 จะเน้นเรื่องของ “Smart Thailand” โดยมีเป้าหมายที่สำคัญหลักคือ
- ประชากรทั่วประเทศร้อยละ 80 สามารถเข้าถึง Broadband ได้ในปี 2015 และ ร้อยละ 95 ในปี 2020
- ประชาชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 สามารถใช้ประโยชน์จากไอซีทีได้อย่างรู้เท่าทัน และเพิ่มการจ้างงานบุคลากรไอซีทีไม่น้อยกว่า 3% ของการจ้างงานทั้งหมด
- เพิ่มอัตราส่วนของอุตสาหกรรมไอซีทีให้มีมูลค่าเพ่มต่อ GDP ไม่น้อยกว่า 18%
- ยกระดับความพร้อมด้านไอซีทีโดยรวม เพื่อให้ประเทศไทยอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาสูงที่สุดร้อยละ 25 ของ Network Readiness Index
- ผลักดันให้เกิดการจ้างงานแบบใหม่ที่เป็นการทำงานผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
- ประชาชนไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ตระหนักถีงความสำคัญและบทบาทของไอซีทีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กรอบนโยบาย ไอซีที 2020 ได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 7ด้านดังแสดงในรูป
สำหรับแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที่ 2 ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “ประเทศไทยเป็นสังคมอุดมปyญญา (Smart Thailand) ด้วย ICT” ซึ่งแผนแม่บทฉบับที่สองกำหนดจะสิ้นสุดในปีนี้ และทางกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศก็คงผลักดันร่างแผนฉบับที่ 3 ต่อ
ประเทศไทยอาจจะแตกต่่างกับประเทศอื่นๆพอสมควรในเรื่องของแผนไอซีที เพราะเรามีหลายแผนและยังมีนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีที่อาจเปลี่ยนแปลงตลอด จึงทำให้ขาดความต่อเนื่องเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆที่จะให้ความสำคัญกับกรอบนโยบายหรือแผนแม่บท มากกว่าจะเปลี่ยนแปลงตามผู้บริหารของประเทศหรือกระทรวงอยู่ตลอดเวลา
สุดท้ายผมขอนำภาพให้เห็นว่า แผนและนโยบายไอซีทีของประเทศไทยถูกกำหนดมาจากส่วนใดบ้าง เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความหลากหลายตามที่กล่าวไว้
ได้ concept ดีครับ ขอให้เขียนเพิ่มอีกนะครับ
ขอบคุณอาจารย์ที่นำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจเหล่านี้ให้ทราบ เป็นประโยชน์ในการค้นหาบทความทำวิจัยมากๆค่ะ จะรอติดตามบทความใหม่ๆนะคะ
อ่านแล้วได้เห็นภาพในมุมกว้างได้ความรู้มากเลยครับ
ของกัมพูชาจะมีแผนเมื่อไรคะ