ผมไม่ได้เขียนอะไรบล็อกนานหลายเดือน ทั้งๆที่ไอซีทีในประเทศมีการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงมากมาย เราเพิ่งได้กระทรวงในชื่อใหม่ “กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม” เรามีการจัดงานหลายงานทั้ง Start-up Thailand หรือ Digital Thailand รัฐบาลเองก็เริ่มพยายามเน้นคำว่า Thailand 4.0 เพื่อพยายามจะบอกว่าประเทศเราต้องก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงก็เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัล
รัฐบาลเองก็ได้อนุมติแผนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลและสังคมที่ได้กล่าวถึงหลายๆยุทธศาสตร์ที่จะมาปรับประเทศไทยสู่ยุคดิจิทัล เตรียมงบลงทุนไว้ถึง 20,000 ล้านบาทเพื่อที่วางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ทั้งการขยาย Broadband ให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆในประเทศ การลงทุนด้าน Gateway ออกสู่ต่างประเทศ และมีแผนต่างๆอีกมากมาย
จริงๆแล้วคนไทยจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ ในยุค 4G ที่เรามีการใช้ Smartphone กันอย่างมากมาย คนไทยเล่นไอทีเพื่อความบันเทิงไม่น้อยหน้าชาติอื่นในโลก เรามีจำนวนคนที่อยู่ในโลก Social Media ไม่น้อยกว่าชาติอื่น แต่พอมาถึงคำว่า Thailand 4.0 ผมว่ามันมีคำมากกว่า “เข้าถึงและใช้เป็น” ใช่ครับคนไทยเราใช้ไอทีเป็นแต่เราใช้โดยไม่ได้มี Digital Mindset ในการทำงาน การจะเปลี่ยนแปลงสู่ Thailand 4.0 ไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าเราไม่เปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานขององค์กรโดยเฉพาะภาคราชการ และกลุ่ม SME หรือแม้แต่หน่วยงานเอกชนรายใหญ่ๆ
เรายังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หลายๆอย่างเรายังทำงานเหมือนเดิมแต่เราใช้เทคโนโลยีเป็นเพียงแค่เครื่องมือบางอย่างแต่เรายังมีวัฒนธรรมการทำงานแบบเดิม เรายังเดินทางไปร่วมประชุมกัน น้อยรายที่จะใช้ Confererence Call หรือ NetMeeting ภาคราชการก็จะต้องจัดประชุมโดยเรียกข้าราชการมานั่งรับฟังนโยบายแทนที่จะ Broadcast ผ่าน Internet เรายังทำเอกสารโดยใช้ Word, Excel แบบส่งกันไปมาโดยไม่รู้จักการใช้งานแบบ Collaboration เรายังใช้ Thump Drive ในการส่งไฟล์ไปมากแทนทีจะใช้ Share storage เรายังต้องมีเอกสารมากมายในการทำงานในการประชุม ข้อสำคัญบ่อยครั้งเราทำงานโดยขาดข้อมูลที่ควรอยู่บนโลกออนไลน์ที่ควรค้นได้ง่าย
ผมยังมองไม่ออกเลยครับว่าเราจะก้าวสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างไรถ้าองค์กรส่วนใหญ่ในประเทศไทยยังไม่มี Digital Culture ซึ่งมันมีคงความหมายมากกว่าการใช้ไอทีเป็น แต่มันคือการเปลี่ยนแปลงการทำงานขององค์กร ต้องเข้าใจวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปในโลกดิจิท้ล องค์กรที่จะมีวัฒนธรรมดิจิทัลต้องมีองค์ประกอบหลายๆเรื่อง ผมขอลองยกมาให้ดูบางประเด็น แล้วจะตอบได้ว่าประเทศเราพร้อมเข้าสู่ Thailand 4.0 มากน้อยแค่ไหน
- Transparency (ความโปร่งใส) โลกดิจิทัลทำให้หลายอย่างสามารถเปิดเผยออกมาได้ ทุกคนจะต้องแชร์ข้อมูล คนทำงานต้องกรอกข้อมูล ต้องทำงานแบบออนไลน์ทันทีทันใด ข้อมูลหลายอย่างจะเชื่อมโยงกัน องค์กรที่จะอยู่ในโลกดิจิทัลต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งนี้ประเทศที่มีปัญหาการคอรัปชั่นที่สูง ย่อมยากต่อการก้าวสู่ Digital Transformation
- การแบ่งปัน (Sharing) วัฒนธรรมดิจิทัลที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการ Sharing บุคลากรในองค์กรต้องพร้อมที่จะแบ่งปันข้อมูลต่างๆทางออนไลน์ คนจะต้องมีวัฒนธรรมในการแบ่งปันในเรื่องต่างๆ การให้ข้อมูล การแบ่งปันทรัพยากร มันถึงจะลดการใช้เอกสารต่างๆได้
- การทำงานร่วมกัน (Collaboration) องค์กรที่มีวัฒนธรรมดิจิทัลต้องมีการทำงานแบบร่วมกัน ในโลกไอทีก็อาจหมายถึง การทำเอกสารร่วมกัน การประชุมออนไลน์ การใช่ข้อมูลร่วมกัน ซึ่งลักษณะแบบนี้องค์กรจะค่อนข้าง Flat ไม่มีขั้นตอนการสั่งงานมากมาย
- การใช้ข้อมูลขับเคลื่อน (Data Driven) องค์กรจะต้องตัดสินใจการทำงานต่างๆโดยใช้ข้อมูล มากกว่าความรู้สึก นั้นก็หมายความว่าวัฒนธรรมองค์กรจะต้องทำให้บุคลากรทุกระดับรู้จักใช้ข้อมูล มีการป้อนข้อมูล เก็บข้อมูล และนำข้อมูลมาใช้ในการตัดสินใจ
- มีความคล่องตัว (Agility) องค์กรต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพราะในโลกดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากที่กล่าวมาเป็นแค่ตัวอย่าง เราลองมาคิดดูว่าประเทศไทยเราพร้อมถึงจุดนั้นหรือยัง เราจะเปลี่ยนแปลงให้ได้ถึงจุดนั้นไหม หรือสุดท้ายคำว่า Thailand 4.0 จะเป็นแค่คำพูดการตลาดที่สวยหรูอีกครั้ง
ธนชาติ นุ่มนนท์
IMC Institute